โรค Rotor คือโรคที่มีเบอร์แบดี้เชื่อมเพิ่มขึ้น ชนิด 2 ที่มีทริตรภาพติดต่อทางสายพันธุ์1948โดย Rotor รายงานเมื่อปี
RS มีสถานการณ์การเกิดและอาการป่วยที่คล้ายกับ DJS มีการดูแลที่ดี และไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ในการตรวจสอบทางห้องแล็บ ดังนี้4.ด้านนี้แตกต่างอย่างชัดเจนจาก DJS
1.การทดสอบการสะสมของ BSP45นาที ขึ้นไปชัดเจน มักได้20%-40%90-120 นาที ไม่มีการขึ้นไปอีกครั้ง
2.
3.24h ในปัสสาวะมีการปล่อยสารโพโรไฟน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่การแบ่งส่วนของโพโรไฟน์ที่มีอยู่ในปัสสาวะเหมือนคนทั่วไป
4.การรับประทานยาภายในทางเดินอาหารเพื่อภาพเรืองด้านหลังตับได้แสดงให้เห็นชัดเจน
1. สาเหตุของการเกิดโรค Rotor มีอะไร
สาเหตุของโรค Rotor คือซับซ้อนและหลากหลาย สาเหตุเฉพาะที่ระบุได้ดังนี้
1、เนื่องจากเซลล์ตับมีความบกพร่องในการกินเบอร์แบดี้เสริมและการขับออกเบอร์แบดี้เชื่อม ทำให้เบอร์แบดี้เชื่อมในเลือดเพิ่มขึ้น และการทดสอบการขับออกอินดอลคลอริด มีการลดลง
2、การทำภาพเรืองด้านหลังตับได้แสดงให้เห็นชัดเจน แต่มีบางครั้งไม่เห็น การตรวจเนื้อเยื่อตับเป็นปกติ และไม่มีเปลือกสีในเซลล์ตับ
3、เรียกว่าเบอร์แบดี้เชื่อม คือผลของการหลังเลือดของเลือดแดงปกติ หลังจากนั้นตับมีชีวิตอายุของเลือดแดงปกติประมาณ100-120 วัน หลังจากที่เลือดแดงของมนุษย์มี1% จะเสียชีวิตด้วยการสูงอายุ ซึ่งเลือดแดงที่เสียชีวิตดังกล่าวจะถูกลบและย่อยโดยเซลล์ซื้องเลือด แล้วกลายเป็นเนื้อเลือดเหลือง หลังจากนั้นจึงถูกกลับเป็นเบอร์แบดี้ไม่เชื่อม แล้วกลายเป็นเบอร์แบดี้เชื่อม ต่อมาตับจะนำมันเคลื่อนย้ายและขับออกไปทางท่อช่องท้อง และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสารหลังเลือด
6. อาหารที่สุขภาพของโรครอเตอร์ควรหลีกเลี่ยงและหลีกเลี่ยง
โรครอเตอร์ควรกินอาหารตามเวลาและปริมาณที่ตั้งตารอง สามรายการของอาหารควรเป็นอาหารที่มีสารอาหารที่ประโยชน์ตามวิทยาศาสตร์ ในขณะกินต้องกินช้าและเย็น การเลือกกินเย็นมากจะมีการปล่อยน้ำลายหลายอย่างที่ช่วยต่อต้านสารปรอทฟิลิกในอาหาร ไม่มีการเลือกอาหารแบบเด็ดขาด และไม่ให้เด็กกินและเล่น หรืออ่านหนังสือและทีวี ขณะกิน
หลีกเลี่ยงการกินมากหรือกินน้อย หากเพื่อนรู้สึกดีกินจะมากกว่าเหตุของอาหารที่ไม่ชอบกินน้อยหรือไม่กิน ทำให้ระดับของโครงงานของหมากย่องมีทั้งแบบน้ำหนักเบาและหนัก ไม่เน้นหน้าที่อาหารที่มีประโยชน์สูงเกินไป ต้องทำอาหารที่มีสารอาหารที่ประโยชน์ตามวิทยาศาสตร์ มากกว่าอาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ และง่ายที่ยังยับ ไม่กินอาหารที่มีความเจ็บปวดสูงเป็นเวลานาน และไม่กินเครื่องดื่มเย็นมากเกินไป เช่นลูกขนม